สำหรับบล็อกเกอร์ หรือนักพัฒนาเว็บไซต์ ที่ใช้ WordPress ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายๆ CMS ที่ใช้ในการทำเว็บไซต์ บางครั้งมีความจำเป็นที่ต้องการใช้ฟีเจอร์พิเศษๆ บางอย่าง หรือฟังชันก์ บางที่ ตัว WordPresss ไม่ได้ติดตั้งมาให้ตั้งแต่แรก การติดตั้งตัว ปลั๊กอิน หรือ โปรแกรมเสริม เพิ่มเติมจึงเข้ามาช่วยเพิ่มเติมความสามารถให้กับเว็บไซต์ของเราที่พัฒนาด้วย WordPress ตัว WordPress Plugins ที่ควรมีติดตั้งไว้ประจำเว็บเว็บไซต์ มีตัวไหนบ้างมาดูกันเลย
1. ปลั๊กอิน Yoast SEO
สำหรับเว็บไซต์ ที่มีการทำ SEO ปลั๊กอินตัวนี้เป็นตัวช่วยได้อย่างมากสำหรับการทำ SEO เป็นเครื่องมือช่วยในการใส่ Title, Meta description ช่วยวิเคราะห์ ตัวเว็บเพจที่เรากำลังเขียนขึ้นความเหมาะสมปัจจัยต่างๆ เกี่ยวกับ SEO เป็นอย่างไร เช่น มี Keyword อยู่ใน Title, URL อยู่ใน Paragraph แรกของบทความหรือไม่ ช่วยในการตั้งชื่อ URL ปลั๊กอิน Yoast SEO จึงเป็นพระเอกตัวหนึ่งที่ช่วยในการทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ของเรา
2. Smush Image Compression and Optimization
ในการทำเว็บไซต์จะต้องมีการใส่รูปภาพประกอบ เพื่อทำให้หน้าเว็บเพจดูน่าสนใจ และเข้าใจเนื้อหาได้ของบทความได้ดียิ่งขึ้น แต่บางครั้ง รูปภาพที่เรานำมาประกอบในการทำเว็บ อาจจะยังไม่ได้ผ่านการบีบย่อขนาดของไฟล์ และขนาดของรูปภาพ ซึ่งบางครั้งถ้าขนาดไฟล์รูปภาพมีขนาดเกินไป จะก่อให้เกิดปัญหาเรื่อง Pagespeed คือ เวลาที่ใช้ในการโหลดข้อมูลในเว็บเพจจะใช้เวลาโหลดเยอะจนเกินไป ตัว Smush Image Compression and Optimization จึงเข้ามาช่วยจัดการในการบีบย่อขนาดรูป และขนาดไฟล์รูปภาพให้มีขนาดที่เหมาะสมอย่างอัตโนมัติ
3. W3 Total Cache
ปลั๊กอิน W3 Total Cache เป็นปลั๊กอิน ที่ช่วยในการทำ เว็บแคช ให้กับเว็บไซต์ ตัวโปรแกรมนี้ยังมีความสามารถในการบีบอัดแคชไฟล์ให้เป็นไฟล์ gzip ขนาดเล็ก ทำให้การโหลดข้อมูลเว็บไซต์รวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องไปดึงหรืออ่านข้อมูลจาก Server ทุกๆ ครั้ง แต่จะไปดึงข้อมูลจากแคชแทน ช่วยลดการทำงานของ Server และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่อง Pagespeed ของเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี โปรแกรมตัวนี้จึงเป็นโปรแกรมที่น่าสนใจตัวหนึ่งควรติดตั้งไว้ประจำเว็บไซต์
4. UpdraftPlus
UpdraftPlus เป็นปลั๊กอินสำคัญตัวหนึ่งที่คนทำเว็บไซต์ควรติดตั้งเอาไว้ การทำ Backup เว็บไซต์ สิ่งสำคัยที่ผู้ดูแลระบบ หรือเจ้าของเว็บไซต์ ต้องหมั่นทำอยู่เป็นประจำ เพราะเหตุการณ์อันคาดไม่ถึงเกี่ยวกับตัวระบบเว็บไซต์อาจเกิดขึ้นได้ ตัวโปรแกรม UpdraftPlus เป็นโปรแกรมที่ดีตัวหนึ่งเลยทีเดียวที่ช่วยในการทำ Backup และ Restore ข้อมูลเว็บไซต์ ถ้าเราทำ Backup เอาไว้ แล้วเกิดมีความเสียหายขึ้นกับเว็บไซต์ UpdraftPlus เป็นโปรแกรมที่ช่วยเราได้ในการกู้ข้อมูลกลับมา นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ UpdraftPlus ช่วยทำ Backup ในการย้ายโฮสต์ได้อีกด้วย
5. Broken Link Checker
Broken Link หรือ ลิงค์เสีย คือ ลิงค์ที่เข้าไม่ได้ ไม่มีหน้าข้อมูลอยู่ภายในเว็บไซต์ ถ้าภายในเว็บไซต์มีลิงค์เสีย เยอะๆ ก็จะไม่เป็นผลดีทางด้าน SEO และสร้างผลด้านลบทำให้เว็บไซต์ขาดความน่าเชื่อถือ ซึ่งบางครั้งการตรวจเช็คด้วยสายตาคลิ๊กดูแต่ละลิ้งค์ ในแต่ละหน้าเว็บเพจ อาจจะต้องใช้เวลานาน ดังนั้นปลั๊กอินตัวนี้ จะมาช่วยในการตรวจเช็คลิงค์เสียที่อยู่ภายในเว็บไซต์ของเรา เพื่อที่จะได้ทำการแก้ไขลิ้งค์เสียที่ตรวจพบต่อไป
6. Regenerate Thumbnails
สำหรับผู้ใช้ WordPress บางครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนธีม (Theme) ที่ใช้อยู่ อาจจะพบกับปัญหาภาพไม่ได้ขนาด ไม่ได้สัดส่วนกับธีมใหม่ ทำให้เว็บไซต์ดูไม่สวยงาม การที่จะต้องมาทำขนาดรูปใหม่เพื่อให้ได้สัดส่วนที่พอดีกับธีมใหม่จึงดูเป็นเรื่องวุ่นวาย ตัวปลั๊กอิน Regenerate Thumbnails คือ ตัวโปรแกรมเสริมที่จะมาช่วยจัดการแก้ไขปัญหานี้ โดยที่เจ้าปลั๊กอินตัวนี้จะทำการสร้างภาพใหม่ขึ้นมาให้ โดยมีขนาดและสัดส่วนที่พอดีกับธีมใหม่ของเรา โดยเราสามารถกำหนดได้จะให้มันแปลงภาพทั้งเว็บไซต์หรือบางส่วนก็ได้
7. Simple Custom CSS and JS
สำหรับนักพัฒนาเว็บ บางครั้งมีความจำเป็นต้องการแก้ไข เพิ่มเติม การแสดงผลหน้าเว็บ เช่น การเปลี่ยนสีพื้นหลัง เปลี่ยนขนาดตัวอักษรในส่วนต่างๆ ซึ่งบางครั้งไม่อาจที่จะทำการแก้ไขเนื่องจากธีมที่ใช้ ไม่มีออปชั่นในการตั้งค่าในส่วนต่างๆ เหล่านี้ จึงจำเป็นต้องทำการแก้ไขไฟล์ CSS หรือ Java Script ที่ใช้ในการกำหนดการแสดงผล ตัวปลั๊กอิน Simple Custom CSS and JS จะมาช่วยจัดการในส่วนนี้ โดยเราสามารถ แก้ไข CSS หรือ Java Script ของธีม เข้าไปได้ โดยไม่ต้องไปเปิด ไฟล์ CSS ต้นฉบับของธีมที่ใช้อยู่ โดยเรายังสามารถกำหนดได้ว่าจะทำการเพิ่ม CSS หรือ Java Script เข้าไปในส่วนของ Header หรือ Footer ได้อีกด้วย
8. Contact Form 7
ปลั๊กอินสำหรับสร้างแบบฟอร์ม ที่ได้รับความนิยมมากทีสุดตัวหนึ่งใช้งานง่าย ใช้การวาง Short code tag ลงในหน้าเว็บเพจในส่วนที่ต้องการวางแบบฟอร์ม เป็นฟรีปลั๊กอินที่ได้รับความนิยมมากตัวหนึ่งในกลุ่มของนักพัฒนาเว็บไซต์
9. Disable Comments
ปลั๊กอิน Disable Comments เป็นโปรแกรมเสริม ที่ช่วยในการปิดช่องกรอกแสดงความคิดเห็น ในหน้า Post, Page, Attachment ถ้าเราไม่ต้องการให้มีการเขียนแสดงความคิดเห็นในบทหน้าบทความ หรือหน้าอื่นๆ แทนที่เราจะคอยมานั่งมอนิเตอร์ตรวจเช็ค Comment ต่างๆ เจ้าปลั๊กอินตัวจะมาช่วยเราในการปิดช่องแสดงความคิดเห็นออกไปจากในหน้าเว็บเพจ ทำให้เราไม่ต้องมาเสียเวลาในการมอนิเตอร์ Comment ต่างๆ
10. iThemes Security (formerly Better WP Security)
ปลั๊กอิน iThemes Security เป็นโปรแกรมเสริมที่ช่วยในการเพิ่มระบบการรักษาความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ ป้องกันการโดนแฮค จากพวกแฮคเกอร์ โดยมันจะช่วยปิดช่องโหว่ต่างๆ ภายในระบบเว็บไซต์ของเรา ให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์เด่น ที่อยู่ใน iThemes Security มีดังนี้
- Brute Force Protection
- File Change Detection
- 404 Detection
- Strong Password Enforcement
- Lock Out Bad Users
- Away Mode
- Hide Login & Admin
- Database Backups
- Email Notifications
ทั้งหมดนี้ คือ ปลั๊กอิน ฟรี เด่นๆ น่าใช้ที่ได้รับความนิยมของ WordPress ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ ลองติดตั้องนำมาใช้งานกันดูได้เลย
Liger นักเขียนผู้หลงใหลในการแสวงหาความรู้และแบ่งปันสิ่งดีๆ สู่ผู้อื่น ด้วยความรักและสนในการเรียนรู้ค้นคว้าหาสิ่งใหม่เพื่อที่จะเผยแพร่ความรู้ ข้อมูล สาระดีคุณค่า นำมาถ่ายทอดในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและน่าติดตาม หวังว่าสิ่งที่ผมถ่ายทอดจะเป็นประโยชน์และสร้างคุณค่าให้กับผู้อ่านทุกคน ทำให้สังคมแห่งการเรียนรู้เติบโตและพัฒนาไปด้วยกัน