close

อันตรายจากการใช้โทรศัพท์ในปั๊มน้ำมัน เสี่ยงระเบิดจริงหรือไม่?

ใช้โทรศัพท์ในปั๊มน้ำมันอันตรายจริงไหม

หลายคนคงเคยเห็นป้ายห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในบริเวณปั๊มน้ำมัน ซึ่งเป็นกฎที่ปั๊มน้ำมันทั่วโลกใช้มาอย่างยาวนาน ความเชื่อนี้เริ่มต้นจากข่าวลือและอีเมลล์เชนที่แพร่กระจายในช่วงปลายทศวรรษ 1990 เกี่ยวกับอุบัติเหตุไฟไหม้ในปั๊มน้ำมันที่มีสาเหตุมาจากการใช้โทรศัพท์มือถือ แม้จะไม่มีหลักฐานยืนยันที่ชัดเจน แต่ความเชื่อนี้ก็ฝังรากลึกในสังคมมาจนถึงปัจจุบัน จากการศึกษาและวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่า โอกาสที่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์มือถือจะทำให้เกิดการจุดระเบิดของไอน้ำมันนั้นมีน้อยมาก เนื่องจากพลังงานจากคลื่นโทรศัพท์มือถือไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดประกายไฟที่รุนแรงพอจะจุดระเบิดไอระเหยของน้ำมันได้ อย่างไรก็ตาม หลายหน่วยงานยังคงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการ ใช้โทรศัพท์ในปั๊มน้ำมัน เพื่อความไม่ประมาท และเพื่อให้ผู้ใช้บริการมีสมาธิในการเติมน้ำมันมากขึ้น ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากความไม่ระมัดระวัง เช่น การทำน้ำมันหกเลอะเทอะ หรือการลืมดึงหัวจ่ายน้ำมันออกจากรถยนต์ก่อนขับออกจากปั๊ม

ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์

การที่โทรศัพท์มือถือจะทำให้เกิดการระเบิดในปั๊มน้ำมันนั้น จำเป็นต้องมีองค์ประกอบสำคัญสามประการ คือ เชื้อเพลิง ออกซิเจน และแหล่งจุดระเบิด โดยไอระเหยของน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถติดไฟได้เมื่อผสมกับอากาศในสัดส่วนที่เหมาะสม แต่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์มือถือนั้นมีกำลังต่ำเกินกว่าจะทำให้เกิดประกายไฟที่จะจุดระเบิดไอน้ำมันได้

สถาบันอุปกรณ์ปิโตรเลียม (PEI) ได้ทำการศึกษาและรวบรวมรายงานอุบัติเหตุไฟไหม้ในปั๊มน้ำมันกว่า 150 กรณีในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ไม่พบว่ามีกรณีใดที่มีสาเหตุมาจากโทรศัพท์มือถือโดยตรง ส่วนใหญ่เกิดจากไฟฟ้าสถิตที่เกิดจากการเข้า-ออกรถยนต์ หรือการสัมผัสตัวถังรถระหว่างเติมน้ำมัน

สาเหตุที่ยังมีป้ายห้าม ใช้โทรศัพท์ในปั๊มน้ำมัน

แม้ว่าความเสี่ยงจากการ ใช้โทรศัพท์ในปั๊มน้ำมัน จะต่ำมาก แต่ปั๊มน้ำมันยังคงติดป้ายห้ามใช้โทรศัพท์ด้วยเหตุผลสำคัญหลายประการ:

  1. เพื่อป้องกันการเสียสมาธิขณะเติมน้ำมัน ซึ่งอาจนำไปสู่อุบัติเหตุอื่นๆ เช่น การกดหัวจ่ายไม่สนิท หรือการเติมน้ำมันล้น
  2. เป็นมาตรการป้องกันเชิงรุกตามหลักความปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากปั๊มน้ำมันเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง
  3. เป็นไปตามระเบียบและมาตรฐานความปลอดภัยสากลที่กำหนดโดยหน่วยงานกำกับดูแล

สาเหตุจริงของอุบัติเหตุในปั๊มน้ำมัน

1. ไฟฟ้าสถิตจากการเข้า-ออกรถ (79%)

  • ไฟฟ้าสถิตเกิดขึ้นได้หลายวิธีในปั๊มน้ำมัน:
    • การเสียดสีระหว่างเสื้อผ้ากับเบาะรถขณะเข้า-ออก สามารถสร้างประจุไฟฟ้าถึง 60,000 โวลต์
    • การสัมผัสตัวถังรถในอากาศแห้ง โดยเฉพาะหน้าหนาว ทำให้เกิดการสะสมประจุ
    • การเคลื่อนไหวของน้ำมันผ่านท่อเติม สร้างไฟฟ้าสถิตได้ถึง 40,000 โวลต์
  • วิธีป้องกัน:
    • แตะโลหะที่ไม่ได้ทาสีก่อนจับหัวจ่าย เพื่อคายประจุ
    • หลีกเลี่ยงการเข้า-ออกรถระหว่างเติมน้ำมัน
    • สวมรองเท้าที่มีพื้นยางเพื่อป้องกันการสะสมประจุ

2. การสูบบุหรี่และอุปกรณ์จุดไฟ (18%)

  • อันตรายจากการสูบบุหรี่ในปั๊มน้ำมันเกิดจาก:
    • ไอระเหยของน้ำมันติดไฟได้ที่อุณหภูมิเพียง 20-25 องศาเซลเซียส
    • ปลายบุหรี่มีความร้อนถึง 600-900 องศาเซลเซียส
    • ไฟแช็คและไม้ขีดสร้างเปลวไฟที่มีอุณหภูมิสูงถึง 1,100 องศาเซลเซียส
  • ผลกระทบ:
    • ไอระเหยน้ำมันสามารถลุกติดไฟได้ในรัศมี 2-3 เมตรจากแหล่งความร้อน
    • เปลวไฟสามารถลามไปตามไอน้ำมันจนถึงแหล่งน้ำมันได้
    • หากเกิดการระเบิด แรงระเบิดสามารถทำลายทรัพย์สินในรัศมีกว้าง

3. อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชำรุด (2%)

  • อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มักก่อให้เกิดอันตราย:
    • สายไฟที่ฉนวนเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดการลัดวงจร
    • มอเตอร์ปั๊มที่ขาดการบำรุงรักษา เกิดความร้อนสูง
    • หัวจ่ายน้ำมันที่สวิตช์ชำรุด อาจเกิดประกายไฟ
  • มาตรการป้องกัน:
    • ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าทุก 3 เดือน
    • ติดตั้งระบบตัดไฟอัตโนมัติ
    • ใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานการป้องกันการระเบิด (Explosion Proof)

4. สาเหตุอื่น ๆ (1%)

  • ความประมาทของผู้ใช้บริการ
    • ใช้โทรศัพท์มือถือขณะเติมน้ำมันจนเสียสมาธิ ทำให้น้ำมันล้น
    • จอดรถไม่ตรงตำแหน่ง ทำให้สายเติมน้ำมันตึงเกินไป
  • สภาพแวดล้อมและสภาพอากาศ
    • ฟ้าผ่าในบริเวณใกล้เคียง
    • พายุแรงพัดวัสดุปลิวมากระทบอุปกรณ์จ่ายน้ำมัน

สาเหตุของอุบัติเหตุในปั๊มน้ำมัน

 

คำแนะนำเพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการปั๊มน้ำมัน

  1. ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งก่อนเติมน้ำมัน
  2. ห้ามสูบบุหรี่หรือจุดไฟในบริเวณปั๊มน้ำมันโดยเด็ดขาด
  3. ไม่ควรเข้า-ออกรถระหว่างเติมน้ำมัน เพื่อป้องกันไฟฟ้าสถิต
  4. หากจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ ควรใช้ในบริเวณที่กำหนด
  5. สังเกตป้ายเตือนและปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานอย่างเคร่งครัด

มาตรการความปลอดภัยเพิ่มเติมในปั๊มน้ำมัน

นอกจากการห้ามใช้โทรศัพท์มือถือแล้ว ปั๊มน้ำมันยังมีมาตรการความปลอดภัยอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น:

* ระบบตัดไฟฉุกเฉิน
* อุปกรณ์ดับเพลิงที่เหมาะสมกับการดับไฟจากน้ำมันเชื้อเพลิง
* ระบบระบายไอน้ำมันอัตโนมัติ
* การฝึกอบรมพนักงานให้รับมือกับเหตุฉุกเฉิน
* การตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ

ข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้บริการ

1. ควรจอดรถให้หัวรถชี้ออกจากตู้จ่ายน้ำมัน เพื่อให้สามารถขับออกได้ทันทีในกรณีฉุกเฉิน
2. ศึกษาตำแหน่งอุปกรณ์ดับเพลิงและทางหนีไฟในปั๊มน้ำมัน
3. หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดขณะเติมน้ำมัน
4. แจ้งพนักงานทันทีหากพบเห็นความผิดปกติหรือการรั่วไหลของน้ำมัน
5. ไม่ควรเติมน้ำมันจนล้นถัง เพราะอาจทำให้น้ำมันหกและเกิดอันตรายได้

สรุป ใช้โทรศัพท์ในปั๊มน้ำมัน เสี่ยงระเบิดจริงหรือไม่

แม้ว่าความเสี่ยงจากการใช้โทรศัพท์มือถือในปั๊มน้ำมันจะต่ำมาก แต่การปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยยังคงมีความสำคัญ เนื่องจากปั๊มน้ำมันเป็นสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้บริการทุกคนควรตระหนักและให้ความร่วมมือ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

แหล่งที่มาข้อมูล:

Liger

Liger นักเขียนผู้หลงใหลในการแสวงหาความรู้และแบ่งปันสิ่งดีๆ สู่ผู้อื่น ด้วยความรักและสนในการเรียนรู้ค้นคว้าหาสิ่งใหม่เพื่อที่จะเผยแพร่ความรู้ ข้อมูล สาระดีคุณค่า นำมาถ่ายทอดในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและน่าติดตาม หวังว่าสิ่งที่ผมถ่ายทอดจะเป็นประโยชน์และสร้างคุณค่าให้กับผู้อ่านทุกคน ทำให้สังคมแห่งการเรียนรู้เติบโตและพัฒนาไปด้วยกัน

Leave a Response